หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจซึ่งเกิดขึ้นระหว่างสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน คือ มีการนำ Bitcoin และ Cryptocurreny มาใช้เป็นระบบการเงินทางเลือกในภาวะที่ระบบการเงินดั้งเดิมมีปัญหา โดยมีความเป็นไปได้สูงว่านี่อาจเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของ Bitcoin ที่คนทั่วโลกจะให้การยอมรับหลังจากนี้
เริ่มจากฝั่งรัสเซีย ที่แม้ว่าจะเป็นผู้เริ่มก่อสงครามแต่ผลจากการที่ถูกชาติอื่น Sanction ออกจากระบบการเงินระหว่างประเทศ หรือ SWIFT ส่งผลให้ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าลงต่ำเป็นประวัติการณ์
ธนาคารกลางรัสเซียยังได้ออกมาตรการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหลักเป็น 2 เท่า จาก 9.5% เป็น 20% และยังบังคับให้ภาคเอกชนแปลง 80% ของรายได้จากสกุลเงินต่างประเทศให้เป็นเงินของรัสเซีย ถือได้ว่าเป็นการแทรกแซงระบบการเงินในประเทศที่หนักหน่วงอย่างมาก
ผลคือราคา Bitcoin ที่อิงกับสกุลเงินรูเบิลมีราคาที่สูงกว่าราคาตลาดทั่วไป หรือเกิด Premium เมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อขายทั่วโลก ซึ่งเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้วกับราคา Bitcoin ในประเทศอิหร่านในตอนที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบการเงินในประเทศ
นอกจากนี้ Stablecoins อย่าง USDT ก็มีราคาสูงกว่าตลาดถึง 30% และปริมาณการซื้อขาย Cryptocurrency ในรัสเซียปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว บ่งบอกว่าคนรัสเซียบางส่วนมองว่า Bitcoin คือระบบการเงินทางเลือกในภาวะที่ระบบการเงินในประเทศมีปัญหา
ขณะที่ฝั่งยูเครนซึ่งเป็นฝ่ายถูกโจมตี ระบบการเงินที่มีปัญหาจากการที่ธนาคารกำหนดวงเงินการถอนเงินสด ประชาชนบางส่วนได้เข้าไปซื้อ Bitcoin โดยดูได้จากปริมาณการซื้อขาย Cryptocurrency ในยูเครนที่เพิ่มขึ้น และรัฐบาลรัสเซียยังประกาศให้ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายประเทศที่สองของโลกตามประเทศเอลซัลวาดอร์
นอกจากนี้ Bitcoin รวมถึง Ethereum ยังถูกใช้เป็นสกุลเงินในการโอนเงินช่วยเหลือจากนานาประเทศเข้าไปยังยูเครน ซึ่งหากใช้ระบบการเงินดั้งเดิม การระดมเงินจากคนทั่วโลกที่ใช้สกุลเงินต่างกันย่อมเป็นไปไม่ได้
แต่ Bitcoin ซึ่งเป็นระบบการเงินไร้ตัวกลางสามารถที่จะทำหน้าที่นี้ได้ แม้แต่ NFT ก็ยังถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการให้ความช่วยเหลือชาวยูเครน
การที่คนทั่วโลกรับรู้ถึงวิธีการใช้งาน Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลในภาวะวิกฤต ตลอดจนการตัดสินใจของธนาคารกลางรัสเซียในการแทรกแซงระบบการเงินภายในประเทศ การถูก Sanction จากระบบการเงินทั่วโลก ตลอดจนการล่มสลายของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อย่าง Sberbank ที่ปิดให้บริการในยุโรปและราคาหุ้นตกลงกว่า 90%
สิ่งที่เกิดขึ้นอาจจจะทำให้เกิดคำถามว่าระบบการเงินดั้งเดิมแบบมีศูนย์กลางและผู้ดูแล แท้จริงแล้วเป็นที่พึ่งพาในภาวะวิกฤตได้หรือไม่
เป็นไปได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดการเงินของรัสเซียและยูเครนอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Bitcoin เป็นที่ยอมรับมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่ระบบการเงินภายในประเทศกำลังมีปัญหาอยู่ แม้อาจจะเป็นชาติเล็กๆ แต่ถ้าชาติเหล่านั้นรวมตัวกันนำ Bitcoin มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงิน อาจจะทำให้เกิดความต้องการ Bitcoin เพิ่มมากขึ้นได้เช่นกัน
ส่วนจะไปถึงขั้นนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือ Bitcoin Standard เหมือนกับ Gold Standard ในอดีตหรือไม่นั้นต้องติดตามกันต่อไป
นเรศ เหล่าพรรณราย ซีอีโอ Ricco Wealth, เลขาธิการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket