แรงเกินต้าน!คาดภาครัฐหวั่นตกเทรนด์ เปิดใจรับ-ลงทุน BTC ป้องกันความเสี่ยง

ฟิเดลิตี้คาดแม้อาจไม่ยอมรับหรือไม่เชื่อมั่นในทฤษฎีการลงทุนของบิตคอยน์ แต่เมื่อมีหลายประเทศมากขึ้นยอมรับ ประเทศอื่นๆ ที่เหลือจะถูกบีบโดยปริยายให้ต้องซื้อเงินดิจิตอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกสกุลนี้เก็บไว้บ้างเพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยง ส่งผลให้มีแนวโน้มที่จะมีภาครัฐหรือแม้แต่ธนาคารกลางจำนวนมากขึ้นยอมรับบีทีซีในปีนี้

ต้นเดือนนี้ ฟิเดลิตี้ ดิจิตอล แอสเส็ตส์ บริษัทในเครือฟิเดลิตี้ อินเวสต์เมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนซื้อหวยออนไลน์ถูกกฎหมายมั่นใจได้ระดับโลก ได้เผยแพร่รายงานฉบับใหม่เกี่ยวกับแนวโน้มคริปโตและผลกระทบในอนาคต โดยหนึ่งในเทรนด์ที่กล่าวถึงในรายงานชิ้นนี้คือ การที่มีประเทศจำนวนมากขึ้นยอมรับคริปโต

ฟิเดลิตี้แจกแจงว่า แม้ปี 2020 และ 2021 จะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่บิตคอยน์ (บีทีซี) ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนประเภทสถาบันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่ปี 2022 จะเป็นยุคแห่งการยอมรับบีทีซีของภาครัฐ

ปีที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ของภาครัฐทั่วโลกเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอล ตัวอย่างเช่น ขณะที่จีนไล่กวาดล้างคริปโตชนิดขุดรากถอนโคน เอลซัลวาดอร์กลับเลือกเส้นทางตรงกันข้ามด้วยการประกาศให้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

ฟิเดลิตี้แจงต่อว่า ไม่คิดว่าปีนี้จะเกิดสถานการณ์ที่ขัดแย้งกันสุดขั้วเหมือนปีที่แล้ว และเวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่า เส้นทางไหนที่จะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดทำรายงานฉบับนี้ตั้งข้อสังเกตว่า แม้หลายประเทศตั้งกฎกติกาเข้มงวดเพื่อควบคุมคริปโต แต่การแบนสกุลเงินดิจิตอลโดยสิ้นเชิงน่าจะเป็นไปได้ยาก และถึงสำเร็จก็จะทำให้ประเทศนั้นสูญเสียความมั่งคั่งและโอกาสมากมายมหาศาล

“เรายังคิดว่า มีทฤษฎีเกมความเสี่ยงสูงมากในขณะนี้ นั่นคือ หากบิตคอยน์ได้รับการยอมรับมากขึ้น ประเทศต่างๆ ที่ถือบิตคอยน์อยู่บ้างในตอนนี้จะมีความสามารถในการแข่งขันเหนือกว่าประเทศที่ไม่มีบิตคอยน์อยู่เลย”

ดังนั้น แม้อาจไม่เชื่อมั่นในทฤษฎีการลงทุนหรือไม่ยอมรับบิตคอยน์ แต่เมื่อมีหลายประเทศมากขึ้นยอมรับ ประเทศอื่นๆ ที่เหลือจะถูกบีบโดยปริยายให้ต้องซื้อเงินดิจิตอลที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกสกุลนี้เก็บไว้บ้างเพื่อเป็นหลักประกันความเสี่ยง ป้องกันไม่ให้ตัวเองต้องเผชิญสถานการณ์เสียน้อยเสียยาก-เสียมากเสียง่ายในอนาคต

ฟิเดลิตี้อธิบายต่อว่า ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ภายในปีนี้จะมีประเทศต่างๆ จำนวนมากขึ้นที่ยอมรับบิตคอยน์ และบางทีอาจได้เห็นธนาคารกลางบางชาติลงทุนในบีทีซีด้วยซ้ำ

สัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีนายิบ บูเคเลของเอลซัลวาดอร์ คาดการณ์ว่า จะมีอีก 2 ประเทศเจริญรอยตามเอลซัลวาดอร์ด้วยการประกาศให้บิตคอยน์เป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย

แต่ดูเหมือนไนเจล กรีน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) เดอเวียร์กรุ๊ปจะมองแง่บวกมากกว่า โดยคาดว่า จะมีถึง 3 ประเทศที่จะประกาศยอมรับบีทีซีเป็นสกุลเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายภายในปี 2022

ในส่วนนักลงทุนประเภทสถาบันนั้น ผลสำรวจของฟิเดลิตี้พบว่า มีถึง 71% ในอเมริกาและยุโรปที่มีแผนจัดสรรเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตอลในอนาคต

ทั้งนี้ จากข้อมูลของคอยน์เก็กโค ราคาบิตคอยน์รูดลงประมาณ 10% นับจากต้นปีนี้ และล่าสุดเทรดอยู่แถวๆ 42,800 ดอลลาร์